ควบคุมสัตว์พาหะ

วิธีกำจัดปลวกให้สิ้นซาก

วิธีกำจัดปลวกให้สิ้นซาก

ปลวกเป็นภัยเงียบที่สร้างความเสียหายอย่างมากให้กับบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านไม้ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวหรือหาทางแก้ไขอาจจะสายเกินไป ปลวกนั้นมักจะเข้าไปกัดกินเนื้อไม้โดยแทรกตัวเข้าไปตามรอยแตกหรือรอยแยกของเนื้อไม้ หรือผนังคอนกรีตแล้วเข้าไปในรังอย่างรวดเร็ว โดยบริเวณที่มักพบปลวกบ่อยที่สุดคือ บริเวณที่ มืดและชื้น รวมถึงพื้นที่ลับตา เช่น ห้องน้ำ ใต้บันได เป็นต้น ฉะนั้นเราจึงจะมาแนะนำวิธีกำจัดปลวกในบ้าน ซึ่งสามารถทำได้เอง ดังนี้ ลดความชื้นในบ้าน เพราะความชื้นนั้นเป็นสิ่งโปรดปรานของปลอกเลยก็ว่าได้ หากต้องการจะลกความชื้นอาจจะทำการโดยการ หมั่นเปิดหน้าต่างระบายอากาศ เปิดม่านให้แสงแดดส่องถึง ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ หรือติดตั้งเครื่องดูดความชื้นในกรณีที่บ้านคุณมีความชื้นค่อนข้างสูง หรืออยู่ในจุดที่ค่อนข้างอับ กำจัดปลวกด้วยแดดแรง หากพบว่าเฟอร์นิเจอร์ของเรามีปลวกเข้ามาทำรัง ให้รีบนำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นไปตากแดดจัด ๆ เพราะว่าปลวกนั้นเก่งเฉพาะในที่มืดอับชื้นเท่านั้น หากมาพอเจอแดดแรง ๆ เข้าหน่อยก็สิ้นฤทธิ์แล้ว แต่วิธีนี้แนะนำว่าในกรณีที่เจอยังไม่ลุกลามไปยังส่วนอื่นมากนั้น เพราะถ้าแบบนั้นแค่ตากแดดอย่างเดียวอาจจะกำจัดได้ไม่ถึงต้นตอ กำจัดปลวกด้วยสมุนไพร สมุนไพรในจำพวกเครื่องเทศเช่น ข่า ตะไคร้ กระเทียม สามารถนำไปกำจัดปลวกได้ โดยใช้ส่วนผสมทุกอย่างรวมกันประมาณ 2 กิโลกรัม มาสับให้ละเอียดแล้วจึงผสมเข้ากับเหล้าขาว 1 ขวด น้ำส้มสายชู 1 ขวด และน้ำเปล่า 20 ลิตรผสมให้เข้ากัน แล้วปล่อยทิ้งเอาไว้ 1 สัปดาห์ จึงนำไปฉีดตามจุดต่าง …

วิธีกำจัดปลวกให้สิ้นซาก Read More »

จุดเสี่ยงที่ควรระวังปลวกกิน

จุดเสี่ยงที่ควรระวังปลวกกิน

ฝ้าเพดาน บริเวณฝ้าและเพดานบ้านส่วนใหญ่จะบุด้วยไม้อัดซึ่งเป็นอาหารโปรดสำหรับปลวกเลยก็ว่าได้ ซึ่งบริเวณนี้สามารถเกิดความชื้นได้ง่าย จึงสามารถดึงดูดบรรดาพวกปลวกให้เข้ามาอยู่อาศัยนั้นเอง โดยปลวกจะทำการเข้ามาทางบริเวณรอบแตกร้าว และอาจจะมาอาศัยทำรังอยู่ภายในช่องว่างของผนัง วงกบประตู ขอบไม้ บันได และพื้นไม้ปาร์เก้ ในบริเวณนี้มักเป็นจุดที่พบเจอปลวกจะขึ้นอยู่ประจำ ยิ่งโดยเฉพะตามมุมต่าง ๆ ของห้อง ซึ่งเป็นจุดอับและแสงสว่างเข้าถึงน้อย รวมถึงไม่มีการเคลื่อนย้ายเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งเป็นให้อาจจะกลายมาเป็นรังที่อยู่ของปลวกนั้นเอง ท่อน้ำทิ้งและท่อสุขภัณฑ์ เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าปลวกนั้นชอบความชื้น ซึ่งในบริเวณเหล่านี้เองก็มีความชื้นสูงและแสงสว่างน้อย โดยส่วนมากเรามักจะสร้างบ้านโดยวางแนวของท่อระบายน้ำทิ้งลงไปที่พื้นดิน ซึ่งปลวกก็จะใช้จุดนี้ในการไต่ขึ้นมาตามขอบท่อ รอยแตกต่าง ๆ ปลวกมักจะอาศัยช่องว่างระหว่างรายแตกนั้นขึ้นบริเวณบ้าน ไม่ว่าจะเป็นรอยแตกของเสา ผนัง คาน หรือพื้นคอนกรีต ดังนั้นเราอาจจะต้องหมั่นคอยตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ และถ้าหาเจอก็ต้องรีบทำการปิดอุดรอยโดยด่วน   ติดต่อทีมงานกำจัดปลวกมืออาชีพ โทร 087-615-9999

การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

วิธีกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย กำจัดแหล่งน้ำขัง ขังไม่ให้ยุงเข้าไปวางไข่ได้ ปิดภาชนะใส่น้ำให้มิดชิด หรือคว่ำไม่ให้มีน้ำขัง หมั่นเปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอ เช่น แจกันดอกไม้ เป็นต้น เลี้ยงปลาไว้สำหรับกินลูกน้ำ ใช้สารเคมีกำจัดลูกน้ำ เช่น ใช้ทรายอะเบท เกลือแกง ผงซักฟอก หรือน้ำส้มสายชู เก็บทำลายเศษวัสดุ เช่น ขวด กระป๋อง และยางรถยนต์เก่าที่ไม่ใช้ให้มิดชิดเพื่อไม่ให้น้ำขังได้

แนะนำวิธีกำจัดเชื้อไวรัสในบ้าน

แนะนำวิธีกำจัดเชื้อไวรัสในบ้าน

วิธีกำจัดเชื้อไวรัสในบ้านมีอะไรบ้าง? สารเคมี การฆ่าเชื้อโรคโดยการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคด้วยเครื่องพ่นละอองฝอย มักใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูง ตัวอย่างเช่น กลูตารัลดิไฮด์ (glutaraldehyde) และสารอื่น ๆ ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากอย. และกระทรวงสาธารณสุข โอโซน (OZONE) โอโซน หรือ o3 คือ ก๊าซออกซิเจนในสถานะพิเศษที่มีโครงสร้าง 3 อะตอม มีความหนาแน่นมากกว่าอากาศ ทำให้เป็นตัวออกซิไดซ์ที่ทรงพลัง ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และยับยั้งไวรัส ได้ทั้งบนพื้นผิวต่างๆ หรือที่ลอยอยู่ในอากาศ และในน้ำ แสง UV ประดิษฐ์ การฆ่าเชื้อไวรัสด้วยการใช้แสง UV ซึ่งหลอด UV นั้นจะให้แสงในช่วง UV-C ที่สามารถช่วยในการฆ่าเชื้อในอากาศได้ โดยเมื่อไวรัสได้รับแสง UV-C เข้าไป รังสีของ UV-C จะเข้าไปทำลาย DNA ของสิ่งมีชีวิตทำให้เชื้อโรคไม่สามารถขยายพันธุ์ ทำให้ไวรัสและแบคทีเรียตายนั้นเอง แสง UV จากธรรมชาติ วิธีนี้ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ เพียงแค่เปิดม่านรับแสงแดดให้เข้ามาในบ้าน ให้อากาศได้ถ่ายเทเป็นการระบายอากาศจากภายนอกเข้ามา และนำอากาศจากภายในบ้านออกไป …

แนะนำวิธีกำจัดเชื้อไวรัสในบ้าน Read More »

วิธีกำจัดคราบตะไคร่เชื้อราหลังน้ำลด

วิธีกำจัดคราบตะไคร่น้ำ และ เชื้อรา หลังจากน้ำลด

ทำในพื้นที่แห้ง การกำจัดเชื้อราหรือตะไคร่นั้นควรทำในพื้นที่แห้ง เพราะถ้าหากในพื้นที่ที่ยังเปียกหรือมีความชื้นอยู่นั้นเชื้อราจะสามารถส่งสปอร์ออกสู่อากาศได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นควรปล่อยให้บริเวณที่จะทำความสะอาดนั้นได้รับแสงแดด เพื่อตากให้พื้นผิวที่มีเชื้อราหรือตะไคร่ขึ้นแห้ง เคลียร์พื้นที่ที่ต้องการจะทำความสะอาด หลังจากที่พื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาดแห้งแล้ว ควรเก็บกวดเศษที่แห้งด้วยไม้กวาดกวาดหรือแปรงขัด และอาจจำเป็นจะต้องใช้แปรงพลาสติกขัดในบริเวณที่มีการสะสมและเกาะตัวหนาแน่นเป็นพิเศษ ฉีดล้างด้วยน้ำ หลักจากจัดการตามวิธีการดังกล่าวมาข้างต้นแล้ว ให้ฉีดน้ำ หรือจะใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงก็ดี เพราะเป็นการช่วยทำให้การกำจัดเชื้อราและคราบตะไคร่น้ำจากหินปูพื้นออกได้ง่ายขึ้น ใช้น้ำส้มสายชูหรือสารฟอกขาว หากในบริเวณที่มีการสะสมของคราวเชื้อราแบบผังลึก อาจใช้น้ำยาซักผ้าขาวหรือน้ำส้มสายชู โดยการน้ำมาผสมกับน้ำแล้วจึงนำไปเทราดไปยังบริเวณนั้น ๆ ทิ้งไว้สักพักแล้วใช้แปรงขัดพื้นขัดบริเวณที่มีคราบอยู่ และจึงค่อยฉีดน้ำล้าง แนะนำว่าถ้าหากในบริเวณนั้นมีลานดิน ต้นไม้ หรือสนามหญ้าไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้นะครับ ใช้ผลิตภัณฑ์สารกำจัดเฉพาะทาง หากว่าน้ำส้มสายชูหรือน้ำยาฟอกขาวนั้นไม่ได้ผล อาจจะต้องเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับขจัดคราบและเชื้อราโดยตรง ซึ่งวิธีการใช้อาจจะต้องอ่านจากคำแนะนำจากฉลากข้างผลิตภัณฑ์นั้น ๆ และปฎิบัติตามข้อควรระวังที่ทางผลิตภัณฑ์แนะนำไว้อย่างเคร่งครัด ติดต่อทีมงานมืออาชีพ โทร 087-615-9999

ควรทำอย่างไรเมื่อน้ำมา

ควรทำอย่างไรเมื่อน้ำมา?

เมื่อน้ำมาควรทำอย่างไร และมีวิธีรับมือกับน้ำท่วมอย่างไรบ้าง เพื่อความปลอดภัยของคนบ้าน และทรัพย์สิน วิธีเตรียมความพร้อมก่อนเกิดน้ำท่วม ติดตามเฝ้าระวังภัย ติดตามข่าวสาร พยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัย เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ สังเกตจากธรรมชาติ เช่น ฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง หรือน้ำในคลองขึ้นสูงผิดปกติ เป็นต้น จัดเตรียมอุปกรณ์ กักตุนข้าวของเครื่องใช้จำเป็นไว้ โดยควรแพ็กใส่กระเป๋าฉุกเฉินและแยกสำหรับแต่ละคนให้เรียบร้อย สำรวจเส้นทางอพยพ มองหาสถานที่ปลอดภัยและศึกษาข้อมูลในพื้นที่ว่าที่ไหนสามารถพักอาศัยระหว่างน้ำท่วมได้ บันทึกช่องทางติดต่อขอความช่วยเหลือและเตือนภัย เบอร์สายด่วนต่าง เว็บไซต์เตือนภัย และแอปพลิเคชั่นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาไว้ เช่น 192 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ, 1784 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, 1199 ศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ, 1196 อุบัติเหตุทางน้ำ, 1669 บริการแพทย์ฉุกเฉิน, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร เป็นต้น วิธีรับมือเมื่อรู้ว่าจะเกิดน้ำท่วม จัดเก็บเอกสารสำคัญไว้ในซองกันน้ำ เช่น บัตรประชาชน บัตรประจำตัว ทะเบียนบ้าน เอกสารเกี่ยวกับรถ เอกสารทางการเงินและธนาคาร รวมถึงสมุดโน๊ต ดินสอ และช่องทางสำหรับขอความช่วยเหลือต่าง ๆ เตรียมสิ่งของจำเป็นเอาไว้ใช้ยามเกิดภัย เช่น …

ควรทำอย่างไรเมื่อน้ำมา? Read More »

วิธีป้องกันเบื้องต้นป้องกันแมลงและสัตว์รบกวน

วิธีป้องกันเบื้องต้น ป้องกันแมลงและสัตว์รบกวน

1.จัดการทิ้งขยะ เศษอาหารและขยะในห้องครัวนั้นดึงดูดแมลง สัตว์ต่าง ๆ ได้ดี 2.ดูแลจัดเก็บอาหาร ทั้งอาหารสดและอาหารแห้งไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดอย่างมิดชิด รวมถึงเครื่องปรุงต่าง ๆ ด้วย เพราะนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูแมลงและสัตว์ต่าง ๆ 3.ตรวจสอบและซ่อมแซมรอยร้าว ช่องโหว่ของบ้าน เพราะอาจเป็นจุดที่ทำให้แมลงและสัตว์ต่าง ๆ สามารถเข้าสู่ตัวบ้าน หรืออาศัยมาทำรังในช่องนั้นได้ 4.ปิดช่องว่างระหว่างประตูหน้าต่าง ให้สนิททั้ง จำเป็นจะต้องต้องตรวจดู และจัดการช่องว่างอื่น ๆ ในบ้านที่แมลง หรือสัตว์รบกวนอื่น ๆ จะสามารถเข้ามาได้   ติดต่อทีมงานมืออาชีพ โทร 087-615-9999

ไข้เลือดออก ภัยร้ายจากยุงลาย

“ไข้เลือดออก” ภัยร้ายจากยุงลายในช่วงหน้าฝน

ในช่วงหน้าฝนนั้นเป็นช่วงที่ “ยุงลาย” นั้นสามารถทำการแพร่พันธุ์เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว และซึ่งเป็นพาหะสำคัญของ “โรคไข้เลือดออก” โดยมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากในช่วงนี้ด้วย โรคไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ไข้เลือดออกเดงกี (dengue virus) ที่สามารถแพร่พันธุ์ได้โดยมียุงลายเป็นพาหะ เมื่อยุงลายดูดเลือดผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสเดงกี เชื้อจะเข้าไปฝังตัวภายในกระเพาะและต่อมน้ำลายของยุงโดยมีระยะฟักตัวประมาณ 8 – 12 วัน เมื่อยุงที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้ไปกัดคนอื่นต่อ จะทำให้เชื้อไวรัสก็เข้าสู่กระแสเลือดของผู้ที่โดนกัด ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกตามมานั้นเอง

อันตรายจากสัตว์มีพิษที่มาในหน้าฝน

อันตรายจากสัตว์มีพิษที่มาในหน้าฝน

งู เป็นสัตว์อันตรายที่พบได้บ่อยในหน้าฝน เมื่อฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังในจุดที่อยู่อาศัยของงูได้ ทำให้งูต้องอพยพหนีน้ำไปตามที่ต่าง ๆ รวมถึงบ้านเราด้วย โดยอันตรายจากงูนั้นคงรู้กันว่าร้ายแรงถึงชีวิต หากเกิดอันตรายจากงู แนะนำแจ้งสายด่วน 1669 ทันที หากถูกงูกัดเข้าให้จำลักษณะของงูชนิดนั้นให้แม่ง และรีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด จากนั้นให้รีบนำส่งแพทย์โดยด่วน ตะขาบ ต้องค่อยระวังอย่างมากในหน้าฝนและบริเวณที่มีน้ำท่วม หากถูกพิษจะมีอาการเจ็บปวดอักเสบ บวมแดง ชา บางรายแพ้พิษรุนแรงอาจมีอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ อาเจียน ปวดศีรษะได้และอาจเป็นอัมพาตบริเวณจุดที่ถูกกัดได้ หากโดนตะขาบกัด ให้ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดหรือสบู่อ่อน ๆ แล้วใช้ผ้าพันแผลพันไว้ พร้อมประคบเย็น แมงป่อง มีพิษที่ร้ายแรงมาก ๆ หากถูกแมงป่องต่อยให้ล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ จากนั้นประคบแผลด้วยผ้าห่อน้ำแข็ง เพื่อบรรเทาอาการปวด ซึ่งจะช่วยให้พิษกระจายตัวได้ช้าลง จากนั้นรีบนำส่งแพทย์ แมงมุม ส่วนมากที่พบเจอในบ้านเรามักไม่มีพิษ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงหากถูกกัด แต่จะมีอาการระคายเคืองเล็กน้อย เช่น บวม แดง คัน แสบร้อน แต่ก็มีแมงมุมบางชนิดที่มีพิษร้ายแรง เช่น แมงมุมแม่ม่ายดำ แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล ซึ่งต้องระวังอย่างมากในหน้าฝนนี้ พิษของแมงมุมชนิดนี้มีผลต่อระบบเลือด ทำให้เกิดความผิดปกติในอวัยวะหลายส่วนได้